แทงบอล ธุรกิจการก่อสร้าง

ทำความรู้จักกับ ธุรกิจการก่อสร้าง “ธุรกิจการก่อสร้าง ” คือการก่อสร้างอาคาร โครงสร้าง สถานที่ถนน อาคารบ้านเรือน โดยการก่อสร้างก็จะประกอบไปด้วยงานหลายแบบ ยกตัวอย่าง แทงบอล เช่น งานไม้ งานก่อ งานฉาบคอนกรีต งานเหล็ก
สำหรับคนที่ทำอาชีพนี้เราจะเรียกเขาว่า ช่างก่อสร้าง และจะแยกออก เป็นหมวดหมู่ ยกตัวอย่าง เช่น ช่างไม้ ช่างปูน ช่างสี ช่างเหล็ก เป็นต้น
3 หมวดหมู่ที่พบเห็นได้มากที่สุดในธุรกิจก่อสร้าง แทงบอล
1. ธุรกิจก่อสร้างถนน และ ระบบสาธารณูปโภค
ยกตัวอย่างเช่น
- งานก่อสร้างถนนคอนกรีต ลาดยางมะตอย
- การก่อสร้างระบบเส้นทางด่วน
- การก่อสร้างรางรถไฟ
- การก่อสร้างสนามบินรันเวย์
- การก่อสร้างท่าเรือในการสัญจรหรือท่าเรือในการรับส่งสินค้า แทงบอล เป็นต้น
2. ธุรกิจการก่อสร้าง อาคาร สถานที่
ธุรกิจการก่อสร้าง อาคาร สถานที่ นั้นจะเป็นธุรกิจที่มีความนิยม และ แพร่หลายมากที่สุด
เนื่องจากมีความต้องการ ในเรื่องของการสร้างบ้าน ที่พักที่อยู่อาศัย หรือ โรงอาหาร อาคารพาณิชย์ และ โรงเก็บของ พิพิธภัณฑ์
หอสมุด โบสถ์ นั้นมีค่อนข้างมาก เพื่อตอบสนอง ต่อความต้องการของตลาด
ธุรกิจการก่อสร้างอาคาร สถานที่ นั้นจึงเป็นที่นิยมเป็นอย่างมาก และมีการเติบโตได้ตลอดเวลา
3. ธุรกิจการก่อสร้างระบบชลประทาน
ธุรกิจการก่อสร้าง ระบบชลประทานนั้น ค่อนข้างจะเฉพาะเจาะจงมากๆ จะเป็นงานจำพวก
- การสร้างเขื่อน
- ประตูระบายน้ำ
- การก่อสร้างคลองชลประทาน
- การก่อสร้างอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับชลประทาน
ส่วนมากแล้วจะมีแค่เจ้าใหญ่เท่านั้น ที่จะได้รับงานเกี่ยวกับ ระบบชลประทาน และ เจ้าของธุรกิจหน้าใหม่นั้น ค่อนข้างที่จะมีโอกาสน้อยมากที่จะได้รับงานประเภทนี้ เนื่องด้วยงานประเภทนี้ต้องใช้ ผู้เชี่ยวชาญในงานเฉพาะทางโดยตรง
ความรู้เกี่ยวกับผู้ที่ต้องการเป็นเจ้าของธุรกิจการก่อสร้างควรจะมี
ควรจะดู รูปแบบในการจัดทีมก่อสร้าง ทีมก่อสร้างนั้นจะถูกจำแนกออกมาเป็น 4 กลุ่มด้วยกัน นั่นก็คือ
1. เจ้าของธุรกิจ มันมีความสำคัญในด้านของ การที่จะกำหนดโครงการ ในการก่อสร้าง และเป็นหัวใจหลักในการลงทุน ซึ่งมีความสำคัญมากที่สุด ในด้านของการเป็นต้นทุนโครงการก่อสร้างแต่ละงาน
2. นักออกแบบ นักออกแบบนั้น มีความสำคัญในด้านของการออกแบบ ในสิ่งที่เจ้าของธุรกิจ นั้นต้องการจะสื่อออกมา และนักออกแบบนั้นสามารถออกแบบมา ให้ได้ตามความต้องการของ เจ้าของธุรกิจให้ได้มากที่สุด
เปรียบเสมือนกับ เป็นมือที่ถือปากกา และ เจ้าของธุรกิจนั้น เป็นสมองที่คอยสั่งการ ให้มือและประการนั้นวาดรูปขึ้นมา
นักออกแบบนั้นมีความสำคัญมาก ในด้านของความแม่นยำ และ การวางแผนที่จะก่อสร้าง ให้ออกมาเป็นรูปเป็นร่างมากที่สุด
3. ผู้รับเหมา หรือ ผู้ก่อสร้าง ผู้รับเหมา หรือผู้ก่อสร้างนั้น ก็มีความสำคัญไม่แพ้กันเลย เนื่องจากผู้รับเหมา หรือผู้ก่อสร้างนั้น
เปรียบเสมือนกับ มือที่คอยสร้างสิ่งต่างๆที่ เจ้าของธุรกิจและนักออกแบบนั้นได้วาดขึ้นมา
เปรียบเสมือนกับ นักออกแบบเป็นคนวาดรูป และผู้รับเหมาหรือผู้ก่อสร้างนั้นทำสิ่งที่ นักออกแบบเจ้าของธุรกิจฉันต้องการขึ้นมาให้เป็นชิ้นเป็นอันมากที่สุด
แต่โดยส่วนมากนั้น ผู้รับเหมา จะเป็นงานที่ทำหลายคนและเป็นงานที่ค่อนข้างจะต้องใช้ความละเอียด ในการทำงานมาก
ยิ่งทำให้บางอย่างที่ นักออกแบบคือเจ้าของธุรกิจนั้นคำนวณไว้มีความผิดพลาดเช่นกัน เนื่องจากอุปสรรคในการทํางาน
และการคำนวณนั้น ค่อนข้างที่จะแตกต่างกันมาก ยกตัวอย่าง เช่นงานที่เราคำนวณเวลาในการซักผ้าและตากผ้า
จากการคำนวณอาจจะมีความเป็นไปได้ว่าผ้าจะแห้งภายในวัน แต่ด้วยอุปสรรคที่เกิดขึ้น อาจจะมีฝนตกหรือแดดค่อนข้างอ่อน
ทำให้ผ้านั้นแห้งช้าลงแต่ถึงอย่างนั้นแล้ว การทำงานถ้าอย่างนั้นก็มีเรื่องของสัญญา ในการทำงานด้วยเช่นกัน เพราะงานประเภทนี้ค่อนข้างที่จะมีการทุจริตและหนีงานค่อนข้างมาก จึงมีการทำสัญญาขึ้นเพื่อป้องกัน การหนีงานและทุจริต
สัญญาก่อสร้างหรือสัญญาผู้รับเหมาคืออะไร
สัญญาก่อสร้าง หรือ สัญญาผู้รับเหมานั้นคือ เอกสารที่มีลายลักษณ์อักษร บันทึกลงไปอย่างชัดเจน ในเรื่องของข้อกำหนด
ในการทำงาน ระยะเวลาการรับเงิน และ ขอบเขตในการทำงานต่างๆ สัญญานี้มีความสำคัญค่อนข้างมาก
เนื่องจากหากการที่เรา หรือ ผู้รับเหมาร่างสัญญาขึ้นมา โดยเจตนาหรือไม่เจตนา ในการสร้างช่องโหว่
นั้นมีโอกาสที่จะทุจริต หรือ หนีงานได้ดังนั้นการจะสร้างสัญญานั้น มีความสำคัญค่อนข้างมาก และ สิ่งที่ควรจะสังเกตให้ดีก็คือ
1 .วันที่และสถานที่ในการทำสัญญา มีความสำคัญในด้านของการกำหนดระยะเวลาในการทำงานของผู้รับเหมา ผู้ก่อสร้าง ว่ามีระยะเวลานานเท่าไหร่ และสามารถ ผ่อนผันในกรณีที่เกิดปัญหาที่ไม่สามารถก่อสร้างได้หรือไม่ ขอบเขต การผ่อนผันได้แค่ไหน
2. ข้อมูลของคู่สัญญานั่นคือเจ้าของบ้าน หรือ ผู้ที่ว่าจ้างกับ ผู้รับเหมาก่อสร้าง หรือ ผู้รับจ้าง นั้นควรจะมีตัวกลางที่เป็น ตัวกลาง
หรือหน่วยงานที่มีข้อมูล และตรวจสอบข้อมูลของตัวสัญญาว่าจ้าง นั้นเหมาะสมหรือไม่ ควรจะมองที่เป็นบริษัทจะคอยดูแลด้านนี้
จะดีกว่าและไม่ควรเป็นคนรู้จักของผู้รับจ้าง ที่มักจะเรียกกันว่าผู้ตรวจสอบสัญญาที่เป็นมือที่สามถึงที่เรียกว่า “Third Party ”
แต่ก็ควรศึกษาให้ดี ก่อนจะว่าจ้างผู้รับเหมา และ ตรวจสอบสัญญา หรือ มือที่สามของเราด้วยว่า มีความน่าเชื่อถือเพียงใด
3 . ขอบเขตในการทำงาน หรือลักษณะงาน ที่ผู้ว่าจ้างตกลงไว้ หากในกรณีที่เป็นเจ้าของธุรกิจนั้น
ควรคำนึงถึงความชัดเจนในสัญญา ลักษณะการก่อสร้าง สถานที่การก่อสร้างต่างๆ ว่ามีความเหมาะสมมากหรือไม่
ในการก่อสร้างคุ้มค่าหรือไม่ ในเรื่องของวัตถุดิบควรจะประเมินราคาดูให้ถี่ถ้วน ก่อนที่จะเสนอราคาแบบก่อสร้าง
เนื่องจากในแต่ละสถานที่นั้นมีวัตถุดิบก่อสร้าง ที่ไม่ค่อยเท่ากันมากสักเท่าไหร่ เนื่องจากในแต่ละเขต แต่ละสถานที่ นั้นจะมีความยากง่ายในการหาวัตถุดิบไม่เท่ากัน
ในกรณีที่เป็นผู้ว่าจ้างนั้น ควรที่จะศึกษาให้ดีว่า ในแหล่งที่อยู่อาศัยนั้นเหมาะสมในการสร้างสิ่งปลูกสร้างหรือไม่ และควรจะศึกษาข้อจำกัดในพื้นที่นั้นๆให้ดี
ยกตัวอย่างเช่นในพื้นที่เปล่าที่ไม่มีไฟเข้ามา ผู้ว่าจ้างนั้น ควรที่จะขอไฟให้เดินผ่านได้บริเวณบ้าน หรือจำพวกน้ำประปา และ การเดินทางเข้าออกก็มีความสำคัญมากเช่นกัน เนื่องจากในการเดินทางเข้าออกนั้น มีความยากลำบากอาจจะทำให้วัตถุดิบในการก่อสร้างนั้นเข้ามาได้ยากมากขึ้น และ มีอุปสรรคในการก่อสร้าง ทำให้การก่อสร้างนั้นอาจมีความล่าช้าลงตามไปด้วย
4. ราคาและรายละเอียด ค่างวดที่ต้องจ่ายหรือได้รับ สิ่งนี้มีความสำคัญมาก เพราะว่าสิ่งนี้จะต้องระบุชัดเจนในเอกสารสัญญา
ซึ่งควรจะมีความเหมาะสม ในการจ่ายค่างวด เนื่องจากมี ปัญหาค่อนข้างมากไม่ว่าจะเป็นการไม่จ่ายเงินตามค่างวด หรือ เบิกเงินล่วงหน้าแล้วหนีไปพร้อมกับเงินดังกล่าว
ดังนั้นสิ่งนี้มีความสำคัญมาก ในการที่จะแบ่งค่างวด ให้พอดี ไม่รัดกุมเกินไป และไม่หละหลวมเกินไป เพราะว่าถ้าหากรัดกุมเกินไปนั้นจะทำให้ ผู้ที่รับเหมาก่อสร้างมีความเครียดในการรับเงิน แต่ถ้าหากว่าหละหลวมเกินไป ก็อาจจะทำให้ผู้ว่าจ้าง ถึงผู้รับเหมานั้นหนีหาย หรือทิ้งงานที่ยังไม่เสร็จไว้ให้เราได้ เป็นการสร้งปัญหาให้เราได้ ที่ต้องมาหาผู้รับเหมาใหม่ และยังบานปลายทางด้านค่าใช้จ่ายอีกด้วย
5. ระยะเวลาในการก่อสร้างนั้น ไม่ควรเนิ่นนานเกินไป ิและ ในกรณีที่ผ่อนผันนั้น ก็ควรจะมีความสมเหตุสมผลด้วย
สิ่งนี้มีความสำคัญในเรื่องของการยื้อเวลาให้เกินไป
ทำให้สิ่งที่ก่อสร้างนั้นมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นด้วย เพราะว่าการที่มีระยะเวลา ที่นานเกินไปนั้น มีโอกาสค่อนข้างสูงที่ผู้รับเหมานั้น จะใช้โอกาสนี้ในการรับเงินและหนีไป
ธุรกิจการก่อสร้างนั้น เป็นธุรกิจที่มีความเสี่ยงค่อนข้างสูง ในเรื่องของการโกงและทุจริตคอรัปชั่น เนื่องจากปัญหาที่มาจากตัวเลขที่ค่อนข้างมาก ทำให้ผู้ได้รับเงินนั้นมีความโลภมากขึ้นตามมา
ดังนั้นการจะทำธุรกิจประเภทก่อสร้างนั้น ควรที่จะมีความระมัดระวังและรอบคอบ ค่อนข้างสูงในเรื่องของการใช้จ่ายในแต่ละครั้ง
เพื่อป้องกันการทุจริตคอรัปชั่น และการทิ้งงานที่ยังไม่เสร็จของผู้รับเหมา แต่ถึงอย่างนั้นก็เป็นงานที่มีรายได้ดี และคุ้มค่า แก่การลงทุนเป็นค่อนข้างมาก
ในทุกๆธุรกิจ มักมีความเสี่ยงร่วมด้วยอยู่เสมอ ก่อนการตัดสินใจลงทุนทำสิ่งใดๆ ที่เกี่ยวกับธุรกิจ ควรศึกษาให้ดี และหาข้อมูลประกอบการตัดสินใจให้รอบคอบ ในทุกๆด้าน เพื่อให้เกิดความผิดพลาด หรือผิดแพลนที่วางไว้ให้น้อยที่สุด ซึ่ง ธุรกิจก่อสร้าง เป็นธุรกิจที่ค่อนข้างเสี่ยงในทุกๆด้าน แต่ผลกำไร รายได้ และการรับเงินที่เป็นยอดสูงพอสมควร ทำให้ สาขาอาชีพนี้ มีการผุดขึ้นมาตลอด ทุกยุคทุกสมัย โดยไม่มีหยุดนิ่ง หรือ ตายไปจากระบบธุรกิจ…